เกี่ยวกับเรา

Exceed Toys

Part 1 ความทรงจำในอดีต
ย้อนกลับไปช่วงปี พ.ศ. 2557 แอดมินได้มีโอกาสไปเที่ยวย่านสำเพ็ง เดินดูของทั่วๆไป ไม่ได้มีจุดหมายอะไร ในขณะที่กำลังจะกลับแอบเห็นซอยเล็กๆข้างสะพาน (ทราบในภายหลังว่าชื่อสะพานภาณุพันธุ์) ตรงทางเข้ามีร้านขายเกมส์ PS1 เลยเกิดความอยากเล่น เกมส์เก่าๆที่เคยเล่นสมัยเด็ก เดินเพลินๆเข้าไปในซอย แคบก็แคบ ร้อนก็ร้อน มีบางร้านติดแอร์ให้พอหายใจได้บ้าง หาแผ่นเกมส์ที่อยากเล่นไปเรื่อยๆ หลังจากได้พูดคุยกับหลายๆร้านจึงได้รู้ว่าสถานที่แห่งนี้มีชื่อว่า "สะพานเหล็ก" ได้ยินชื่อมานานแต่เพิ่งได้มา แผ่นเกมส์เก่าเยอะจริงๆ นอกจากนั้นยังมีรถบังคับ เครื่องใช้ไฟฟ้า อื่นๆอีกหลายอย่าง เดินไปเดินมาหลงครับ จำซอยที่เข้ามาไม่ได้ พยายามหาทางออกจนไปเจอกับสถานที่แห่งหนึ่ง คนมุงเยอะมาก ความรู้สึกแรกที่เดินเข้าไปเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกที่ไม่รู้จักมาก่อน "สะพานเหล็กสเเควร์"

Part 2 โลก Anime กับเหล่า Figure
หลังจากที่ฝ่าดงไทยมุงมาได้ก็พบกับตู้ขนาดใหญ่แบ่งเป้น 3-4 ชั้น มีตัวการ์ตูนที่คุ้นเคยในวัยเด็กวางเรียงกันอยู่ เอาจริงๆผมลืมมันไปแล้ว ลืมไปว่าเคยตื่นตอนเช้ามาดูเจ้าขุนทอง ลืมไปว่าเคยตั้งตารอช่อง 9 การ์ตูน ภาพตู้กระจกที่เห็นตรงหน้าทำให้ความทรงจำย้อนกลับมาพร้อมกับเสียงที่คุ้นเคยเข้ามาในหัว "พลังคลื่นเต่า" ผมยืนมองสักพักก็ไม่เข้าใจว่าทำไมรู้จักทุกตัว ยิ่งเดินดูความทรงจำยิ่งกลับมา เดินดูอยู่นานพอสมควรสุดท้ายได้ Himura Kenshin งาน Figuarts Zero เป็นฟิกเกอร์ตัวแรกและเป็นจุดเริ่มต้นของการสะสม

Part 3 ก้าวเข้าสู่วงการนักสะสม
ช่วงวันหยุดหากมีเวลาว่างผมจะไปเดินสะพานเหล็กเป็นประจำ เดือนละ 3-4 ครั้ง ไปแต่ละครั้งก็จะได้ของติดไม้ติดมือมา 4-5 ตัว เป็นพวกงานตู่คีบราคาตัวละไม่ถึงพัน ช่วงนี้จะยังไม่มีปัญหาเรื่องตู้เก็บ ผมใช้เวลาสะสมประมาณ 1 ปี เริ่มขยับมาเป็นงานที่ใหญ่ขึ้น ราคาปรับขึ้นตามขนาดกับคุณภาพงาน อยู่มาวันนึงผมมานั่งคำนวณว่าถ้าจะซื้อเยอะขนาดนี้เปิดร้านเป็นตัวแทนเองเลยจะคุ้มกว่า หลายคนมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ โตแล้วยังอ่านการ์ตูน ซื้อของเล่น แต่ผมกลับคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือความทรงจำในวัยเด็ก เป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เป็นมากกว่าของเล่นธรรมดา จึงเป็นที่มาของคำว่า Exceed Toys